ข่าวฟุตบอลอังกฤษ ศึกเอฟเอคัพที่จะมาถึงในวันที่ 3 มิถุนายนนี้ ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าเป็นศึกแห่งความยิ่งใหญ่ของเมืองแมนเชสเตอร์อย่างแท้จริง เพราะจะเป็นการโคจรมาพบกันของทีมร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งถ้าหาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สามารถคว้าแชมป์ได้ในครั้งนี้ พวกเขาจะสร้างประวัติศาสตร์เพิ่มขึ้นมาอีกอย่างมากมายให้กับสโมสร
สิ่งที่ แมนซิตี้ มีโอกาสทำได้ในเกมนัดชิงชนะเลิศกับ แมนยู
เป็นครั้งแรกที่ในประวิติศาสตร์ที่สองทีมจากเมือง แมนเชสเตอร์ มาชิงกันเองในฟุตบอล เอฟเอคัพ
หากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบไม่เสียประตูจะเป็นการได้แชมป์แบบไม่เสียประตูให้กับทีมใดเลยตั้งแต่ลงเล่นรอบ 3 มาโดย แมนซิตี้ ชนะเชลซี 4-0 ชนะ อาร์เซน่อล 1-0 ชนะ บริสตอล ซิตี้ 3-0 ถล่ม เบิร์นลี่ย์ 6-0 และนัดสุดท้ายก่อนเข้าชิง ชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 3-0
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะเป็นทีมที่ 3 ที่ไม่เสียประตูให้คู่แข่งแม้แต่ประตูเดียวหากสามารถเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบไม่เสียสกอร์ ซึ่งมี 2 ทีมเคยทำได้แล้วคือ เปรสตัน นอร์ธ เอ็นด์ ในปี 1889 และ บิวรี่ ปี 1903
หากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้แชมป์จะเป็นจะเป็นครั้งที่ 2 ของสโมสรที่สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก และ เอฟเอคัพ ได้ในปีเดียวกัน ซึ่งครั้งแรกที่แมนซิตี้ทำได้เกิดขึ้นในปี 2018-19
เออร์ลิง ฮาลันด์ มีโอกาสเป็นนักเตะคนแรกของนอร์เวย์ที่มีโอกาสยิงประตูในนัดชิงชนะเลิศได้ ซึ่งที่ผ่านมาถึงแม้จะมีนักเตะจากนอร์เวย์เข้าชิงถ้วยนี้อย่างมากมาย แต่ยังไม่มีนักเตะคนไหนเลยที่ยิงประตูในนัดชิงเอฟเอคัพได้ ซึ่ง ฮาลันด์ เป็นนักเตะรายเดียวที่มีโอกาสทำได้ในเกมที่จะถึงนี้
